วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

กิน เที่ยว หัวหิน

หัวหิน เมืองแห่งการกิน เที่ยว พักผ่อน ไปเที่ยวมาเสียนาน กว่าจะได้เอามาลงใน foodmemo ซักที ครั้งนี้เราไปเที่ยวหัวหินกันครับ ไปกิน เที่ยว พักผ่อน เมืองนี้ชั่งเป็นเมืองที่น่าไปเยี่ยมเยียนบ่อยๆ เสียเหลือเกิน

ออกจากกรุงเทพประมาณ 10 โมงเช้า กว่าจะไปถึงหัวหินก็เกือบๆ บ่ายสองเข้าไปแล้ว ใกล้ได้เวลา check-in เข้าที่พัก แต่ก่อนจะเข้าที่พัก เราแวะหาอะไรกินกันก่อน ครั้งนี้เราทำการบ้านมา หาในเวบ pantip ว่ามีร้านในที่น่าสนใจบ้าง เราสรุปกันที่ร้านน้องเมย์ อยู่ตรงข้ามโรงเรียนหัวหิน เป็นร้านอาหารไม่ใหญ่อะไร แต่รสชาติอาหารเป็นที่กล่าวขานกันเชียวล่ะ

พิกัด GPS ร้านน้องเมย์ : 12?34'31.2"N 99?56'52.7"E

อาหารขึ้นชื่อของร้านน้องเมย์ ที่เราสั่งคือ กุ้งชาววัง เป็นกุ้งแม้น้ำประมาณ 4 ตัวใหญ่ รสชาติมันหอมหวาน มันนิดๆ เบาๆ ไม่หวาน กำลังดี กุ้งก็เนื้อแน่น ผมไม่รู้ว่าสูตรนี้เค้าทำกันอย่างไง แต่รสชาติน้ำซอสถูกใจจริงๆ จานต่อไปที่เราสั่งคือ ปลาหมึกแดดเดียว ไข่เจียวปู และยำรวมมิตร ทุกอย่าง รสชาติน่าประทับใจ ยกเว้นยำที่ออกจะเปรี้ยวไปเสียหน่อย แต่ก็ถือว่าใช้ได้ล่ะ มื้อนี้หมดไป 490 บาท

กุ้งชาววัง 200 บาท
หมึกแดดเดียว 120 บาท
ไข่เจียวปู 60 บาท
ยำรวมมิตร 60 บาท
เครื่องดื่ม 50 บาท













หลังจากหาอะไรกินกันจนอิ่มท้องแล้ว ก้ได้เวลา check-in เข้าที่พักกัน ครั้งนี้เราไปพักที่ TheHideaway Resort กัน เป็นรีสอร์ทไม่ใหญ่มาก มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง หลังห้องมีบันไดให้สามารถเดินลงสระได้เลย

พิกัด GPS The Hideaway : 12?36'40.5"N 99?57'10.7"E




มาดูอาหารเช้ากัน เป็นแบบ Buffet นะ มีหลายเลือกไม่กี่อย่าง แต่คุณภาพอาหารแต่ละอย่างก็จัดว่าดีเสียทีเดียวล่ะ มีทั้งเบคอน (ของโปรด) omelet, pancake, french toast, ham



จบด้วยผลไม้นานาชนิด

ส่วนขวดที่เห็นเป็นน้ำ apple และน้ำฝรั่ง อร่อยมาก ดื่มของเค้าไปหลายขวดเลย :)


วันกลับ เรามาเดินตามแผนที่การกินกัน แต่มีเวลาไม่มากต้องรีบกลับกรุงเทพแล้ว เลยได้ไปแค่ร้านแม่นงนุช ซื้อข้าวเหนียวมะม่วงกลับบ้าน แล้วก็มาปิดท้ายที่ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะกัน ร้านนี้มีรีวิวหลายกระทู้เหมือนกัน บรรยากาศร้านก็เป็นเหมือนร้านกาแฟสมัยก่อน ร้านกาแฟต่างจังหวัดทั่วไป อันนี้เฉยๆ เพราะผมไม่ใช่คนกรุงเทพ เห็นภาพแบบนี้จนชินตาแล้ว ไปดูกันนี้กว่า ว่าเราจะกินอะไรกันดี



อย่างแรกที่สั่งข้าวหมูแดงหมูกรอบ ดูธรรมดา แต่รสชาติมันทำให้นึกไปถึงรสชาติคุ้นลิ้นที่เคยกินสมัยเด็กได้ดีทีเดียว น้ำราดหวานๆ หมูแดงหอม ใส่ซีอิ๊วดำนิดหน่อย คลุกให้เข้ากัน อร่อย ภาพความสุขความเศร้าในวัยเด็ก เวลานั่งกินข้าวหมูแดงปรากฏชัดเลยล่ะ 555

จานต่อไปเป็นหมูสะเต๊ะ หมูแทรกมัน กินจนแทบไม่อยากหยุด น้ำราดและอาจาด ก็ใช้ได้

อีกจานเป็นผัดไทกุ้งสด





ชามะนาว และชาเย็น รสชาติชาก็ OK ครับ ไม่ได้ดีมา ความรู้สึกเหมือนชามะนาว ชาเย็นที่ซื้อกินที่กรุงเทพ โดยเฉพาะชาเย็นเวลาใส่นมแล้วสีเหมือนชาเย็นที่กรุงเทพเลย ไม่เหมือนชาเย็น ที่กินแถวภาคใต้ ที่สีชาจะออกสีอ่อน และนวลกว่า แถมรสชาติชาก็อร่อยกว่า ถ้าอาหารร้านนี้โอเคครับ แต่ชาเย็นเฉย แต่ผมไม่ได้ลองกาแฟนะ แล้วก็เค้ามีขายก๊วยเตี๋ยวด้วย ก็ไม่ได้ลอง ไว้ไปครั้งหน้าจะไปลองใหม่ ครั้งหาเล็งไว้ว่าจะไปลองพักพุทธรักษาดู เพราะอยู่ใกล้เมือง แทบจะไม่ต้องขับรถออกมาเที่ยวเลย เดินได้สบาย

ครั้งหน้าเจอกันใหม่ที่หัวหิน ทิ้งท้ายด้วยแผนที่กินหัวหิน ที่หามาได้ ไม่รู้ใครทำไว้ ขอบคุณล่วงหน้า มีประโยชน์จริงๆ ครับ




วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ปั๋งหงาย ร้านนี้ที่ต้องแวะ ณ จอมบึง, ราชบุรี

วันหยุดยาว วางแผนจะไปเที่ยวกาญจนบุรีกัน ก่อนถึงที่พักที่จองไว้ที่กาญจนบุรี เราก็หาโอกาสเที่ยวแวะทั้งระหว่างทาง และที่ต้องแวะ เมื่อออกจากกรุงเทพฯ เรามุ่งหน้าสู่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เที่ยว นั่งเรือ ซื้อผลไม้กันจนเป็นที่เรียบร้อย แผนการณ์ต่อไปคือหาของกิน โดยร้านที่เราเล็งไว้ในครั้งนี้คือ ร้านปั๋งหงาย เพราะเห็นรีวิวหลายๆ รีวิวทั้งใน pantip/cafe/food และ Bloggang ของพี่ๆ เพื่อนหลายท่าน รวมทั้งความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของไข่ตุ๋นที่ต้องไปลอง เผื่อได้เอามาเลียนแบบทำกินและขายบ้าง เมื่อออกจากตลาดน้ำฯ เรามุ่งหน้าสู่ อำเภอจอมบึง ราชบุรีกัน ถึงร้านเกือบๆ เที่ยง

พอเข้าร้าน หาที่นั่งได้ สิ่งแรกที่สั่งคงหนีไม่พ้น ไข่ตุ๋นที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมาดากันเลย ตามด้วยกับข้าวอีก 2-3 อย่าง


เจ้ามือสั่งลุย กินไม่อั๋น


ผัดผักรวมมิตร ของสาวๆ


พระเอกของงาน น่ากินที่สุด หอม ฟูได้ใจสุดๆ เลย!!!


ซักคำไหม อ่ะ ตักให้ ละลายในปากเลย สุดยอดเลย


แกงป่าไก่บ้าน




บ่งบอกถึงความอร่อย กินไม่มีเหลือ อร่อยเหลือเฟื้อ

การเดินทางมาร้าน ก็ไม่ยากเลย พอเข้าเขตราชบุรี ขับข้ามสะพานข้ามแม่น้ำไป จะเจอ 4 แยก ที่ 2 ก็เลี้ยวขวาเข้ามาทางถนนเจดีย์หักไปทางแยกเขางูนะครับ ก่อนเข้าอำเภอจะผ่าน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง ขับไปอีกหน่อยเห็นปั้มเชลล์อยู่ขวามือเลยไปนิดจะเห็นป้ายบอกชื่อ “ ปั๋งหงาย ”


พิกัด GPS ร้านปั๋งหงาน : 13°37'35.3"N 99°37'19.9"E

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Air mail from google AdSense support, Google PIN




Google PIN

Finally, i got my Google PIN. Yattaaaaaa.

Mugicha หรือ ชาข้าวบาร์เลย์


Mugicha

เม็ดชาข้าวบาร์เลย์ ไม่เหมือนกับชาอื่นๆ ที่ใช้ส่วนใบในการมาทำชา แต่ Mugicha จะใช้เม็ดข้าว หรือ Barley grains มาทำ โดยจะมีลักษณะสีออกน้ำตาลไหม้ ไม่แน่ใจว่า ผ่านการคั่วมาแล้วหรือยัง
วิธีการ
ต้มน้ำ 1.5 ลิตร ให้พอเดือด
ใส่เม็ดข้าวบาร์เลย์ 70-80 กรัม
ต้มประมาณ 3 นาที แล้วทิ้งให้เย็น 30 นาที รินใส่เยือก ถ้าชอบหวานก็เติมน้ำตาล ถ้าชอบเย็นก็เอาไปแช่เย็น ครับ
ประโยชน์

คนญี่ปุ่นจำนวนมาก เชื่อว่า Mugicha ช่วยทำความสะอาดร่างกายจากภายใน ช่วยลดความตึงเครียด และอื่นๆ ที่สำคัญโดยธรรมชาติ mugicha ไม่มีคาเฟอีน (Caffeine Free)
Barley มีส่วน gluten อยู่ คนที่แพ้พวกแป้ง ขนมปัง หรืออาหารที่มีส่วนผสมของ gluten ควรหลีกเลี่ยงครับ
ไม่มีคาเฟอีน ถ้าไปร้านญี่ปุ่นแท้ ๆ จะเสิร์ฟชานี้ในน้ำแข็งช่วงหน้าร้อน
บริษัทญี่ปุ่นทำการศึกษาจนพบว่า ชาข้าวบาร์เลย์มีคุณสมบัติช่วยลดความข้นของเลือดได้เพราะมีสารชื่อ alkylpyrazine

จริงๆ แล้วถึงไม่มีผลการวิจัยออกมา คนญี่ปุ่นก็เชื่อว่าชาข้าวบาร์เลย์ช่วยลดพิษในเลือด ทำให้เลือดสะอาดขึ้น ซึ่งชาวจีนก็เชื่อว่าการดื่มชาข้าวบาร์เลย์นั้นจะส่งผลให้ความเครียดลดลงอีกด้วย
ในซูเปอร์มาร์เก็ตตอนนี้ มีขายทั้งแบบเมล็ดกะแบบถุงชาแต่มาจากญี่ปุ่นทั้งนั้น หาได้ตามแผนกอาหารญี่ปุ่น ยี่ห้อ House จะเป็นแบบถุงชา ใช้ง่าย สะดวก และไม่แพงเลย ส่วนแบบเมล็ดที่ดังๆ ก็จะเป็นถุงผอมๆ ยาวๆ ยี่ห้อ Hitachiya คนญี่ปุ่นเรียกว่า มุงิชา (mugicha) ส่วนคนเกาหลีเรียกว่า โบริชา (bori cha) ปกติแล้วใช้วิธีต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ข้าวลงไปต้มจนได้กลิ่นหอม สีจะออกมาน้ำตาลเข้ม แล้วรินดื่มแต่น้ำ

คนญี่ปุ่นนิยมดื่มชาข้าวบาร์เลย์โดยไม่ผสมอะไรเลย เวลาดื่ม จะได้กลิ่นหอมฟุ้งของชาก่อนเลย แล้วจะได้รับรสและกลิ่นหอมเต็มลิ้นไปหมด ซึ่งปกติแล้วลิ้นส่วนต่างๆจะรับรสต่างๆ กันแต่สำหรับชาแล้ว เหมือนจะได้รสขมอ่อนๆ ปนมากับความหอมเต็มๆ สดชื่นมากๆ ขนาดต้องลองซักครั้งแล้วจะติดใจ
ส่วนชาวเกาหลีจะนิยมผสมข้าวโพดคั่วไปกับข้าวบาร์เลย์ด้วยเพราะชอบรสหวานอ่อนๆ ของข้าวโพดคั่วที่ผสมกับรสขมนิดๆ ของชาข้าวบาร์เลย์